น้ำสลัดรู้จักให้จริงแล้วเลือกให้ถูก
ว่าด้วยเรื่องราวของเมนูยอดนิยมเพื่อการลดน้ำหนักกัน เมื่อพูดถึงอาหารเพื่อการลดน้ำหนักที่หลายคนนึงถึงคงหนีไม่พ้นสลัดผักไปได้ เพราะสลัดถือว่าเป็นเมนูที่ให้พลังงานต่ำและมีคุณค่าทางอาหารสูง จริงอยู่ว่าสลัดเปล่าๆให้พลังงานไม่มากนัก แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้สลัดมีพลังงานมากขึ้นก็คือ น้ำสลัดที่เราทานคู่กับผักเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งน้ำสลัดแต่ละชนิดมีส่วนผสมต่างกัน จึงทำให้พลังงานที่จะได้รับจากน้ำสลัดจึงต่างกันไปตามส่วนผสม ด้วยเหตุนี้หากเราไม่รู้จักและเลือกใช้น้ำสลัดไม่ถูกก็มีผลทำให้การทานสลัดกลับทำให้อ้วนมากกว่าการทานอาหารปรกติเสียอีก
น้ำสลัด (dressing) หมายถึง น้ำปรุงรสหรือซอสปรุงรส ที่ใส่ในสลัด ซึ่งโดยมากแล้วในน้ำสลัดจะใช้น้ำมันมะกอกที่เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งน้ำมันมะกอกนั้นเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย หากเป็นน้ำสลัดที่มีความข้นจะเติมไข่แดงและ มายองเนสลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชูฝรั่ง หรือน้ำมะนาว และหากแบ่งประเภทของน้ำสลัดออกจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ สลัดน้ำข้น และ สลัดน้ำใส ซึ่งน้ำสลัดแบบข้นนั้นจะป็นกลุ่มน้ำสลัดที่ให้พลังงานสูง ไม่เหมาะนักกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือ หากต้องการทานควรศึกษาปริมาณค่าพลังงานต่อหน่วยบริโภค และจำกัดปริมาณการรับประทาน
สลัดน้ำข้น หรือน้ำสลัดกลุ่มที่ให้พลังงานสูง
เนื่องจากประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น นักกีฬาหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก แต่ควรรับประทานในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้โคเลสเตอรอลสูงได้หากทานมากเกินไป หรืออาจเลือกน้ำสลัดที่ใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ใช้น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันคาโนลา แทนน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งให้คุณภาพใกล้เคียงน้ำมันมะกอก ช่วยควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลไม่ให้สูงเกินไป หรือมีการดัดแปลงสูตร เช่น ลดจำนวนไข่แดงลง หรือใช้ไข่ทั้งฟองแทน หรืออาจจะเลือกใช้สูตรที่มีไขมันต่ำก็ได้
น้ำสลัดครีม
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 70-100 kcal
ทำมาจากน้ำส้มสายชู น้ำมันพืชหรือน้ำมันสลัด มายองเนส มัสตาร์ด และน้ำตาล สลัดครีม แม้ว่าจะมีไขมันมาก แต่หลายคนก็ยังชื่นชอบเพราะทั้งข้น หวานและมัน เนื่องจากมีส่วนผสมหลักจากแดง จึงเป็นแหล่งของโปรตีน ไบโอตินในวิตามินบี ช่วยบำรุงผิว เล็บและผมให้เงางามสุขภาพดีได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เมื่อจะรับประทานจะต้องกะปริมาณให้เหมาะสม และควรเลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลาทูน่าในน้ำเกลือหรือน้ำแร่ เนื้ออกไก่ลวกไม่ติดหนังและไขมันมาเป็นเครื่องประกอบจานสลัดผักจะดีที่สุด
น้ำสลัดซีซาร์
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 80 kcal
น้ำสลัดซีซาร์เป็นน้ำสลัดแบบครีมสัญชาติ อิตาลี มีส่วนผสมจากน้ำมันเมล็ดองุ่น หรือน้ำมันมะกอก กระเทียมสับ น้ำมะนาว ไข่ไก่ มายองเนส เกลือ ปลาร้าฝรั่ง(anchovy) น้ำเชื่อม และ พาเมซานชีส ลักษณะน้ำสลัดจะเป็นสีขาวข้น มักรับประทานคู่กับผักกาดแก้ว ผักกาดหอมคอส เห็ดฟาง โรยด้วยเบคอนและขนมปังกรูตอง(ขนมปังเนยอบกรอบเป็นชิ้นเล็กๆ) และ พาเมซานชีส ซึ่งเจ้าซีซาร์สลัดนี้ถือว่าเป็นสลัดที่ติดอันดับสลัดที่ให้พลังงานสูงมากจานนึงเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี สลัดซีซาร์ก็เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่ไม่ชอบรับประทานผักเพียงอย่างเดียว แต่ก็ควรระวังการใส่เบคอนหรือกรูตองมากไปอาจได้รับพลังงานเกินได้
น้ำสลัด เทาซัน ไอร์แลนด์
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 80 kcal?
น้ำสลัดสีส้มอมชมพูรสชาติหอมมันอมเปรี้ยวนิดๆ ลักษณะและส่วนผสมจะคล้ายคลึงกับน้ำสลัดครีม เพียงแต่มีการเติมส่วนผสมของมะเขือเทศเพิ่มเข้าไป และมีปริมาณน้ำมันและไข่แดงน้อยกว่าน้ำสลัดครีม ถึงแม้ด้วยภายนอกอาจจะดูว่าอ้วนน้อยกว่าและมีประโยชน์มากกว่าน้ำสลัดครีมแต่ก็ยังเป็นน้ำสลัดที่ต้องจำกัดปริมาณในการรับประทาน เพราะให้พลังงานสูงและมีโซเดียมสูงอีกด้วย ส่วนประโยชน์ของน้ำสลัด เทาซัน ไอร์แลนด์ คือไลโคปีน ที่มีอยู่มะเขือเทศ ดังนั้นหากต้องการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับสลัดควรเติมส่วนของมะเขือเทศลงไป และเลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำมารับประทานคู่กัน
สลัดน้ำใส น้ำสลัดเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนักและผู้รักสุขภาพ
น้ำสลัดใส เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น คนเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ความดัน-โลหิตสูง และโรคอ้วน เพราะมีส่วนผสมของเกลือและน้ำตาลที่น้อยกว่า แม้ว่าจะมีส่วนประกอบหลักเป็นไขมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันงา ซึ่งจัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน หากรับประทานในปริมาณพอเหมาะจะช่วยลด การเกิดโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดลงได้ ถึงแม้จะเป็นน้ำสลัดแบบใสจะให้พลังงานน้อนกว่าแต่ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกันเพื่อให้ได้รับปริมาณที่เหมาะสมนั้นเอง
น้ำสลัดงา-โชยุ
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 55 kcal
ส่วนผสมสำคัญ ได้แก่ โชยุ(ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) น้ำมันงา น้ำมันพืช งาคั่ว น้ำเชื่อมและเกลือ น้ำสลัดญี่ปุ่นโดดเด่นในส่วนผสมที่มีความหอม ทำให้ช่วยเจริญอาหาร น้ำมันงามีกรดไพติก ช่วยในการยับยั้งการเกิดมะเร็งลำไส้ และเมื่อราดบนผักสลัดจะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น สำหรับผักสลัดที่นิยมรับประทานคู่กับน้ำสลัดงาหรือญี่ปุ่นได้แก่ ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น วอเตอร์เครส หากเพิ่มเต้าหู้ขาว หั่นสีเหลี่ยมลูกเต๋า รับประทานคู่กับสลัดผักจะให้พลังงานและโปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์ได้เลย
น้ำสลัดอิตาเลียน
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 43 kcal?
น้ำสลัดอิตาเลียนเดิมทีเป็นสลัดสำหรับคนสตางค์น้อย จะใช้ขนมปังเก่าแต่ยังไม่หมดคุณภาพมาอบให้กรอบผสมกับรสของน้ำสลัดเพื่อเพิ่มรสชาติ บางสูตรอาจเติมพริกไทยดำและใบโหระพาสับ เพิ่มความร้อนแรง แต่ส่วนประกอบหลักของน้ำสลัดอิตาเลียน ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว กระเทียม หัวหอม ฯลฯ จากการศึกษาการรับประทานน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 2 ช้อนชาต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดตีบ ควบคุมระดับความดันโลหิต นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยเรื่องความจำของสมอง สำหรับส่วนผสมของ น้ำมะนาวช่วยกำจัดสารพิษ ลดระดับโคเลสเตอรอล และช่วยให้เซลล์ต่างๆ แข็งแรง ส่วนกระเทียมมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย เป็นอาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ใหญ่ ดังนั้นจึงช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย ลดการเกิดหลอดเลือดแดงเข็งตัวและให้ใยอาหารที่ดีแก่ร่างกาย สุดท้ายส่วนประกอบของหัวหอมในน้ำสลัดสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
น้ำสลัดฝรั่งเศส
ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงานประมาณ 73 kcal
ส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู มัสตาร์ด เกลือ และน้ำเชื่อม น้ำสลัดแบบฝรั่งเศสถือว่าเป็นน้ำสลัดที่ผู้ควบคุมน้ำหนักสามารถเลือกมาใช้ได้อีกชนิดนึง เพราะมีปริมาณไขมันไม่สูงนัก เหมาะกับการราดบนผักกาดแก้วสดๆ กรอบๆ คู่กับอาหารประเภทสัตว์ปีกไร้มันหรือ เนื้อปลา จะช่วยให้เจริญอาหาร ไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป และถ้าอยากเพิ่มความหอมของน้ำสลัด ให้บีบน้ำมะนาวซึ่งช่วยเพิ่มวิตามินซีแก่ร่างกาย และโรยพริกไทยดำ เพิ่มความ-หอมเหมือนอาหารประเภทยำ อร่อยแบบบ้านเรานั่นเอง
เมื่อเราทราบถึงเรื่องปริมาณพลังงานและประโยชน์ของส่วนผสมต่างๆในน้ำสลัดแต่ละชนิดแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงก็คือการกะปริมาณการรับประทานให้พอเหมาะ เพราะไม่ว่าอาหารชนิดไหนต่อให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากเท่าไหร่ ถ้าหากทานมากเกินความจำเป็นก็เป็นสาหตุที่ทำให้อ้วนได้เช่นกัน
ขอบคุณภาพจาก : กูเกิ้ล
เครดิต : สาระเรื่องสุขภาพ
เรื่องน่าอ่าน :
วิธีลดพุง ลดหน้าท้อง แบบง่ายๆ