"โคโรน่าไวรัส" (โควิด-19) - ninesonson.blogspot.com

"โคโรน่าไวรัส" (โควิด-19)

 "โคโรน่าไวรัส" (โควิด-19)



เรื่องที่น่ากลัวของสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนในโลก ทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับโรคนี้ที่ทราบกันชัดเจน และอีกหลายๆ เรื่องที่ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร 

ยกตัวอย่าง สารเคมีหนึ่งมีฤทธิ์รักษาอะไรและมีผลข้างเคียงใดที่พอทราบคือ knowns ส่วน unknowns คือ ไม่รู้ว่ามันมีผลข้างเคียงในระยะยาวๆ 20-30 ปีอย่างไร ส่วน known unknowns นั้นก็คือ ตระหนักดีว่าไม่รู้อะไร เช่นไม่รู้ครบถ้วนว่าหากกินกับยาอีกนับร้อยนับพันตัวจะเกิดปฏิกริยาร่วมอย่างไรต่อร่างกายของเรา

กลับมาเรื่องโคโรน่าไวรัส ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Covid-19 หลังจากอุบัติขึ้นมาแล้ว กล่าวคือ ไวรัส (มีขนาดเล็กกว่าแบคทีเรียมาก) ตระกูลโคโรน่า (corona หมายถึงแสงทรงกรดหรือมงกุฎ ซึ่งมีลักษณะเป็นหยักๆ คล้ายหนามแหลม ซึ่งเป็นหน้าตาของไวรัสตระกูลนี้) เชื่อกันในอดีตว่าไม่มีผลร้ายต่อมนุษย์มากนัก



ในปี 2003 เมื่อโรค SARS ซึ่งเกิดจากไวรัสในตระกูลนี้เกิดขึ้นความเชื่อในความไร้อันตรายของไวรัสตระกูลนี้จึงหมดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโรค MERS ซึ่งเกิดจากไวรัสตระกูลนี้เช่นกันอุบัติขึ้นในปี 2012
(อัตราการตายของ SARS คือ 10% ส่วน MERS คือ 30%) SARS มีผู้เป็นโรคอยู่ประมาณ 8,000 คนมีคนตาย 800 คน ส่วน MERS ตัวเลขคือ 2,500 คนและตาย 860 คน หลังจากนั้นมีงานวิจัยจำนวนมากมายโดยเฉพาะโรค SARS และพยากรณ์กันว่าไวรัสตระกูลนี้จะเป็นสาเหตุการเกิดของโรคในมนุษย์อีกหลายโรค มันจึงเป็นลักษณะของ known unknowns คือรู้ว่าจะอุบัติขึ้นแต่ไม่รู้ว่าจะมีลักษณะรุนแรงหรือมีอาการอย่างใด ไวรัสตระกูลโคโรน่าเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคที่ติดต่อระหว่างสัตว์มานานแล้ว กล่าวคือเป็น knowns แต่เมื่อพันธุกรรมของไวรัสบางตัวในตระกูลนี้กลายพันธ์ุไปจนสามารถทำให้คนเป็นโรคได้ ไวรัสตัวนี้ซึ่งอยู่ในสัตว์บางชนิดเข้าสู่ตัวคนผ่านแผลหรือผนังเยื่อของตาจมูกปากโดยไวรัสอยู่ในสารคัดหลั่งจากสัตว์ (มือไปสัมผัสและนำมาขยี้ตา จมูก หรือสูดหายใจละอองฝอยเข้าปอด) SARS นั้น เชื่อว่าชะมดเป็นตัวนำไวรัส ส่วน MERS นั้นคือ อูฐ ทั้งสองโรคเกิดขึ้นนานพอสมควรแล้วจนมีเวลาให้นักวิชาการศึกษาพันธุกรรมและสาเหตุของการติดต่อไปสู่คนสำหรับ Covid-19 นั้นยังอยู่ในลักษณะ knowns ในเบื้องต้น กล่าวคือมั่นใจว่าติดจากสัตว์สู่คนและต่อไปถึงคนอื่น อีกทั้งรู้ลักษณะของ DNA (นักวิชาการจีนเป็นผู้ถอดรหัสได้ในเวลาหนึ่งเดือนนับตั้งแต่ระบาดซึ่งนับว่าเร็วมากเมื่อเปรียบเทียบกับสองโรคแรก) แต่ known unknowns ก็คือ ยังไม่รู้แน่ชัดว่าระบาดจากสัตว์ใด (ค้างคาวพันธุ์เกือกม้าหรืองู) ติดมาสู่คนในลักษณะใด (หากรู้ชัดก็ป้องกันได้) ระยะฟักตัวที่แท้จริงนานเท่าใด (รู้คร่าวๆ ว่า 2-14 วัน) ยาใดที่ฆ่าไวรัสนี้ได้ (ยังไม่รู้เพียงแต่รักษาตามอาการซึ่งคล้ายกับเป็นโรคนิวมอเนีย คือ จาม ไอ มีปัญหาในการหายใจ ไข้สูง ฯลฯ)



ที่กล่าวมานี้คือรู้ว่าไม่รู้อะไรซึ่งกำลังรีบทำวิจัยกันอย่างหนักในขณะนี้ ทั้งในจีนและต่างประเทศ แต่ที่น่ากลัวก็คือ unknown unknowns คือไม่รู้ว่าไม่รู้อะไรเช่นต้องตรวจสอบว่ามีการติดต่อทางอื่น นอกจากที่เข้าใจกันหรือไม่ (ตอนนี้พบว่าติดต่อทางอุจจาระได้) ไม่รู้ว่าจะสงสัยเรื่องอะไรเช่นการฟักตัวที่นานกว่า 14 วัน เป็นไปได้หรือไม่การรักษาด้วยยาเท่าที่ทราบกันจะมีผลกระทบในระยะยาวจนทำให้เป็นโรคอื่นได้ง่ายขึ้นหรือไม่ มีวิธีการตรวจสอบอื่นที่ได้ผลกว่านี้หรือไม่ (ตอนนี้พบว่าการใช้ CT Scan ปอดจะทำให้รู้ผลเร็วกว่าการตรวจเชื้อ) ฯลฯ

ขณะที่เขียนนี้ทั้งโลกมีคนเป็น Covid-19 ประมาณ 2,801,649 คน เสียชีวิต 195,438 คน (ข้อมูลจากเว็บไซต์ Worldometer วันที่ 25 เม.ย.2563) หากถามตรงๆ ว่า Covid-19 น่ากลัวไหม คำตอบก็คือน่ากลัว ส่วนจะจบลงเมื่อใดจนโลกเป็นปกตินั้นเข้าลักษณะ unknown unknowns ซึ่งพยากรณ์ได้ยาก ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างทางที่โรคนี้กำลังจะคลายอิทธิฤทธิ์ลงนั้น วิธีการป้องกันและรักษาที่ได้ทำกันไปอาจสนับสนุนให้เกิดโรคใหม่ หรือการฟื้นตัวใหม่ของโรคเก่าๆ ขึ้นมาอีกหรือการระบาดของโรคนี้อาจพลิกผันกลับมาอีกหรือไม่ (MERS ฟื้นตัวหลายครั้งก่อนจะจบลง)



เราจึงควรดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้ดีเพื่อเตรียมรับมืออย่างมีสติไม่ตื่นตูมจนสติแตก ขาดกำลังใจในการทำงานและดำเนินชีวิต อย่าลืมว่าถึงแม้จะผ่านโรคนี้ไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกหลายปัญหา เช่นโรคใหม่จากตระกูลโคโรนาไวรัส ฝุ่นหมอกควัน ภัยแล้ง การเมือง เศรษฐกิจโลก ปัญหาปากท้อง ฯลฯ ถ้าไม่ร่วมมือกันเราจะมีโอกาสป่วยหนักในลักษณะ “ตายหมู่” ได้


ขอบคุณข้อมูล: กรุงเทพธุรกิจ

เรียบเรียง: ninesonson
"โคโรน่าไวรัส" (โควิด-19) "โคโรน่าไวรัส" (โควิด-19) Reviewed by ninesonson on เมษายน 24, 2563 Rating: 5
ขับเคลื่อนโดย Blogger.