Lifestyle ให้ชีวิตมีความสุข
การที่คนเราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขนั้น เราควรจะต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หรือมุมมองให้ฝึกมองโลกในแง่ดี แล้วเราจะพบว่า สุขภาพจิตดี ก็คือ สุขภาพความคิดที่ดี ซึ่งเรามีวิธีการในการใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ง่ายๆ สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนตัวเอง ลองอ่านและดูว่าคุณจะสามารถทำตามได้ทุกข้อหรือเปล่า
1. การรู้จักฟังให้ดี ซึ่งโอกาสทองทองคนเราบางทีก็ไม่ได้มีกันบ่อยๆ ถ้าเราฟังไม่ดีหรือฟังแล้วไม่เข้าใจ เราอาจจะพลาดสิ่งดีๆ ไปก็ได้ การรู้จักที่จะฟังจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
2. ทำตัวให้สบายอย่าคิดมาก บางครั้งบางทีการที่เราคิดมากนั้นมันก็เป็นผลลบทั้งด้านสมองและจิตใจ ซึ่งมันจะสื่อออกมาทางอารมณ์ จนทำให้คนรอบข้างรู้สึกแย่ไปด้วย
3. จะคิดการใดหริอทำอะไรก็ตาม จงคิดการให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ แต่อย่าลืมที่จะเติมความสุขสนุกสนานลงไปด้วย เพราะการที่เราจะคิดหรือจะทำอะไรที่มันใหญ่มันอาจจะทำให้เราเครียด แต่ถ้าเรามีความสุขและความสนุกสนานน่าตื่นเต้นในการทำสิ่งนั้น เราก็จะรู้สึกผ่อนคลาย และพร้อมที่จะทำมัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม แต่เราก็รู้ว่าเราได้ทำมันแล้ว
4. หัดทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้ การที่เราจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้กับใครเราไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้คนนั้นหรือให้คนทั้งโลกรับรู้ มีเพียงคนเดียวที่รู้ถึงการกระทำนั้น คือ ตัวเราเองก็พอ เพียงเท่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีแล้ว
5. จงจำไว้ว่าข่าวทุกชนิด ล้วนถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น ทุกวันนี้ข่าวสารต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากที่ใดก็ตาม ก่อนที่จะออกสื่อก็จะถูกเรียบเรียงใหม่ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น บางครั้งก็เกินจากความเป็นจริงมากจนเกินไปก็มี เราจึงไม่ควรเชื่อมากจนเกินไป ทำใจรับข่าวสารนั้นแล้วคิดเป็นกลางเสมอ
6. ใครจะวิจารณ์เราอย่างไรก็ช่าง ไม่ต้องเสียเวลาโต้ตอบ เราต้องเข้าใจว่าคนทุกคนล้วนมีทั้งคนที่ชอบเราและไม่ชอบเรา คนที่ชอบก็จะชื่นชมยินดี ส่วนคนที่ไม่ชอบก็จะวิจารณ์เราต่างๆนาๆ เราจึงไม่จำเป็นต้องยึดติดกับคำเหล่านั้น และยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราไปโต้ตอบก็จะยิ่งทำให้เราหงุดหงิด ไม่พอใจ ซึ่งมันเป็นผลลบมากๆ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมักสร้างความสุขให้เราเสมอ
7. ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ 2 คนเราทุกคนล้วนผิดพลาดกันได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองหรือคนอื่น แต่ถ้ามีคนให้โอกาสอีกครั้งมันจะเป็นอะไรที่รู้สึกดี อันนี้เราต้องมองถึงตัวเราเองด้วยว่า ถ้าเราทำอะไรสักอย่างที่ผิดพลาดไป แล้วมีคนให้โอาสเราอีกครั้งมันจะรู้สึกดีแค่ไหน และถ้าเป็นคนอื่นที่ทำผิดพลาดแล้วเราให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาก็คงรู้สึกดีกับเราเช่นกัน
8. ทำในสิ่งทีตัวเองชอบ อยู่กับสิ่งที่เรารัก ถ้าเราชอบสิ่งไหนจงทำสิ่งนั้น แล้วสิ่งที่เราทำจะออกมาดี และการอยู่กับสิ่งใดก็ตามที่เรารักมักจะมีความสุขเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะแสดงออกมาโดยอัตโนมัติ
เรื่องแนะนำ: เคล็ดลับ 28 วิธีทำให้อายุยืน | อาหาร คือ ยารักษาโรค | สูตรเครื่องดื่ม ดีท็อก ล้างลำไส้ ทำง่ายๆ ไม่เปลืองเงิน
9. จงใช้เวลาให้น้อยในการคิดว่าอะไรคิอ “สิ่งที่ผิด” แต่จงใช้เวลาให้มากในการคิดว่าอะไรคือ "สิ่งที่ถูก" การที่เราจะคิดว่าสิ่งนั้นผิดถ้าคิดนานไปเราจะเกิดความสับสน คือถ้าคิดว่าผิดก็คือผิดไปเลยไม่ต้องหาเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆ มาลบล้างสิ่งที่ผิด แต่สิ่งที่ถูกต้องนั้นเราต้องคิดให้นานๆ ว่ามันถูกต้องจริงหรือเปล่า เพราะถ้าเราคิดผิดไปว่าสิ่งนั้นถูกแต่มันไม่ใช่ เราจะรู้สึกเสียใจมากกว่า
10. คิดอะไรให้รอบคอบก่อนที่จะให้เพื่อนต้องมีภาระในการรักษาความลับ การที่เราจะบอกความลับกับใครสักคนเราต้องคิดและไตร่ตรองให้ดีว่าควรจะเก็บความลับนั้นไว้เอง หรือบอกกับคนใกล้ชิด เพราะถ้าความลับนั้นมันส่งผลให้คนที่รับฟังรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ เราก็ไม่ควรจะบอก
11. เมื่อมีคนสวมกอดคุณด้วยความรักและความยินดี ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน เพราะถ้าเราเป็นฝ่ายปล่อยก่อนคนที่สวมกอดคุณนั้นคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ เหมือนกับว่าเขาให้ใจคุณมาแต่คุณรับไว้แบบขอไปที เราจึงไม่ควรที่จะปล่อยก่อน
12. ยอมที่จะแพ้สงครามย่อยๆ หากการแพ้นั้นจะทำให้เราชนะในสงครามใหญ่ๆ เราไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้ง บางครั้งเรื่องอะไรที่มันเล็กๆ ก็ปล่อยมันไปเสียบ้าง ให้คนอื่นเค้าชนะไป ถ้าเราเห็นว่าเรายังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่ารอเราอยู่ข้างหน้า การชนะทุกครั้งทุกเรื่องไม่ใช่สิ่งที่ดี
13. รู้จักเป็นคนถ่อมตัวบ้าง เพราะเราไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าทุกคน การอยู่ในสังคมเราจึงควรถ่อมตัวบ้าง การที่เราถ่อมตัวจะมีคนที่รักเรามากกว่าคนที่เกลียดเรา มันเป็นพื้นฐานของการเข้าสังคมที่ดีเลยทีเดียว
14. ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด สุขุมเยือกเย็นเข้าไว้ การใจร้อนมุทะลุ ไม่สนใจใครเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่แย่ๆ มันจะทำให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล และเกิดความผิดพลาดในทุกๆเรื่อง เราจึงควรใจเย็นและผ่อนคลาย มันจะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายนั้นเบาบางลงไป
15. อย่าพูดว่ามีเวลาไม่พอ เพราะเวลาที่คุณมีมันก็คือ 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากับคนอื่นๆ เราต้องคิดเสมอว่า ทำไมคนอื่นทำได้ในเมื่อในเมื่อเวลาในแต่ละวันมันมีเท่ากันทุกคน อย่าใช้คำว้าไม่มีเวลามาเป็นข้ออ้างที่จะทำอะไร เพราะถ้าคุณใช้มันเป็นข้ออ้างคุณจะไม่มีวันทำอะไรสำเร็จเลย
16. ต้องกล้าที่จะหันกลับไปมองอดีต ว่าสิ่งที่เราได้ทำลงไปนั้นมันผิดถูกอย่างไร แล้วนำกลับมามองตัวเองในปัจจุบัน เพราะอดีตมันเป็นบทเรียนสำคัญที่ส่งผลมาถึงปัจจุบันของเรา ถ้าอดีตเราทำผิดพลาดไป เรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถแก้ไขปัจจุบันได้เพื่อไม่ให้เราทำผิดซ้ำอีก
17. ประเมินด้วยมาตรฐานของตัวเอง ไม่ใช่มาตรฐานของคนอื่น การจะประเมินอะไรสักอย่างที่เราทำ เราควรใช้มาตรฐานของตัวเองวัดว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี สิ่งนั้นควรทำหรือไม่ควรทำ มาตรฐานของเราตั้งไว้แค่ไหนเราย่อมรู้ดีกว่าคนอื่น ถ้าเราเอามาตรฐานของคนอื่นมาวัด มันจะไม่มีทางพอดีเลย เพราะมาตรฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน
18. จริงจังและเคี่ยวเข็นต่อตนเอง แต่อ่อนโยนและผ่อนปรนต่อผู้อื่น เมื่อเราจะทำอะไรให้ได้ดั่งใจตัวเองเราต้องเริ่มที่ตัวเรา จริงจังกับสิ่งที่เราจะทำไม่ผ่อนปรน แต่กับคนรอบตัวไม่จำเป็นต้องไปเคี่ยวเข็ญเขาให้ทำเพราะเขาอาจไม่พอใจหรือไม่ชอบ เมื่อเราจริงจังกับตัวเองคนอื่นจะมองเห็นเองว่าความสำเร็จที่เราได้รับเกิดขึ้นได้อย่างไร
19. Work Life Balance ใช้ชีวิตให้มีความสุข และแบ่งเวลาให้พอดี ทำงานคือทำงาน พักผ่อนคือพักผ่อน ให้พอดีกัน
ขอบคุณข้อมูล: alivearound
เรียบเรียงโดย: ninesonson
ไม่มีความคิดเห็น: