เรื่องที่ควรตัดทิ้งออกไปจากชีวิต เพื่อทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากกว่าที่เป็น

 

ขีวิตมีความสุข คุณสร้างได้ด้วยตัวเอง

ทุกวันนี้คนเราทุกๆ คนมักพบเจอปัญหาในชีวิตมากพออยู่แล้ว ยิ่งถ้าต้องมาเสียเวลาไปกับเรื่องไม่จำเป็น นอกจากไม่มีประโยชน์ใดๆ แล้วยังจะทำให้เราหลงลืม หรือละเลยในสิ่งที่ควรจะทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกับเราอย่างแท้จริงอีกด้วย การเหลือไว้แต่สิ่งที่จำเป็นจริงๆ ของชีวิต จะทำให้เรามีเวลามากขึ้น ใส่ใจตัวเองมากขึ้น และก็น่าจะทำให้มีความสุขมากขึ้นด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงมาดูว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ควรตัดทิ้งออกไปจากชีวิตเรา เพื่อที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากกว่าที่เป็น

 

1. ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด

คนเราบางทีก็อดเปรียบเทียบไม่ได้เวลาเห็นชีวิตใครดี เพอร์เฟ็กซ์ ดูมีความสุข

แต่ในความเป็นจริงนั้น อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ หลายๆ ครั้งที่เราอยากเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป ตัวตนบางอย่างไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเกิดมาเพื่อที่จะเป็น และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องเป็น ในทางกลับกัน การที่คุณพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณจะเป็นเพียงการเสียเวลา ฝืนตัวเอง และเสียโอกาสที่จะพัฒนาส่วนเด่นของคุณเองอีกต่างหาก  สิ่งที่ได้มาอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด หรือแม้แต่ความเป็นตัวเรา ก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้ามันดีกับตัวเรา มันใช่สำหรับเรา เราก็อาจไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกเลย แค่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เราก็มีความสุขในแบบของเราได้ นั่นแหละความหมายของคำว่าดีที่สุดแล้ว

 

2. อย่าพยายามเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง

ถ้ามันไม่ใช่ตัวเอง ถ้าทำแล้วมันฝืนใจก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร จริงอยู่ อาจจะเปลี่ยนเพราะใครบางคน หรืออาจจะเปลี่ยนเพราะความจำเป็นบางอย่าง แต่มันอยู่ได้ไม่นานหรอกแบบนั้นถึงวันหนึ่ง ที่มาถึงจุดๆ หนึ่ง เราจะพบว่า การได้เป็นตัวเอง มันสบายตัวสบายใจอย่างที่สุดแล้วนอกจากนี้แล้ว การพยายามเป็นที่รักของทุกคน พยายามเอาใจทุกคนด้วยการเปลี่ยนตัวเองนั้นเป็นความคิดผิดๆ ที่จะทรมานตัวคุณเองเปล่าๆ เป็นตัวของคุณเองและให้คนอื่นภูมิใจหรือยอมรับในตัวตนที่แท้ของคุณดีกว่าแน่นอน

 

3. ไม่ยึดติดกับอดีต

ไม่ว่าในอดีตของคุณจะเลิศเลอแค่ไหน หรือ ทุกข์ทรมารแบบสุดๆ มันก็เป็นแค่อดีตที่ผ่านไปแล้วและมีไว้ให้เรียนรู้ แต่ไม่ใช่ให้จมอยู่กับมัน ชีวิตคุณจะไม่มีวันไปไหนได้เลย ถ้ายังยึดติดกับเรื่องเดิมๆ คิดว่าชีวิตมันต้องเป็นแบบเมื่อวาน ความสำเร็จมันต้องเป็นแบบครั้งก่อน คุณกำลังอยู่กับ “วันนี้” และใช้ชีวิตเพื่อไปสู่ “พรุ่งนี้” ไม่ใช่การกลับไปใช้ชีวิตใน “เมื่อวาน”

 

4. พอซะทีกับการใช้เวลากับคนแย่ๆ

มีคำสุภาษิตกล่าวไว้ว่า "คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" ซึ่งเรารู้จักสุภาษิตนี้กันมาแต่ไหนแต่ไร เรารู้ดีว่าคนดีๆ มักจะสอนและทำให้เราได้ใช้ชีวิตดีๆ ฉะนั้นแล้ว คุณควรรีบใช้ชีวิตอยู่กับคนดีๆ แทนที่จะไปอยู่ในสังคมของคนแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตของคุณไม่ไปไหน ยิ่งในเรื่องความรัก เขาว่ากันว่าถ้าคนนั้นเขาต้องการคุณจริง เขาจะมีที่ให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องพยายามหรือต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของคุณ ยังมีคนอีกเยอะที่ให้ความสำคัญกับตัวคุณ จำไว้ว่าคนที่อยู่เคียงข้างคุณในเวลาที่คุณแย่และชี้ทางให้คุณได้ดีคือคนที่เป็นเพื่อนแท้ และคือคนที่คุณควรให้ความสำคัญต่างหาก

บทความแนะนำ: Lifestyle ให้ชีวิตมีความสุข | เคล็ดลับ 28 วิธีทำให้อายุยืน | วิธีระงับอารมณ์โกรธ ลดอารมณ์ร้อนได้เร็วทันใจ

 

5. ไม่จำเป็นต้องเก็บ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเก็บไว้ล้วนแต่เปลืองพื้นที่ ทั้งพื้นที่จริงๆ และพื้นที่ในจิตใจของเรายิ่งเก็บมาก ก็ยิ่งเป็นภาระ ยิ่งสะสมมาก ก็ยิ่งยึดถือ ทิ้งสิ่งไม่จำเป็นไปบ้าง ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากสิ่งเหล่านั้นดูบ้าง เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดให้รกสมอง อะไรตัดทิ้งได้ก็ตัดทิ้งไป แบบนี้ขีวิตและจิตใจจะได้เบาขึ้นเยอะเลย

 

6. ไม่จำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางคนมากมาย

การมีคนรอบข้างเยอะไม่ได้หมายถึงเราไม่ขาด ในทางกลับกัน การมีเยอะ แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ไม่มียังจะดีเสียกว่า อยู่กับคนไม่ต้องมาก แต่เป็นคนที่เข้าใจ พร้อมจะรับฟังเพราะจำนวนไม่ได้เป็นตัววัดความสุขที่แท้จริงเลย บางครั้งการมีเพื่อนหรือคนรู้ใจเพียงแค่หนึ่งคนก็เพียงพอแล้ว

 

7. หยุดโทษคนอื่นสำหรับปัญหาของคุณ

คนเราทุกคนต่างก็มีปัญหากันทั้งนั้น แต่การไม่รับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง แต่โยนความผิดให้กับผู้อื่น คือนิสัยของคนที่จะไม่มีวันโต เพราะเขาจะไม่มีวันเรียนรู้จากความผิดพลาดได้เลย คนที่จะประสบความสำเร็จคือคนประเภทที่กล้า “รับผิดชอบ” กับตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ หาข้ออ้างหรือหาคนมารับผิดในสิ่งที่ผิดพลาดที่เกิดขึ้น 

 

8. ไม่จำเป็นต้องรู้

บางครั้งคนเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ หรือถ้ารู้แล้วไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา

ยิ่งรับรู้มาก เราอาจจะเห็นความจริงที่ไม่น่ารื่นรมย์นัก ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าเราไม่ฉลาด แต่การเลือกจะไม่รับรู้ต่างหาก ที่ดีกับตัวเองมากกว่า บางครั้งเรื่องที่เรารับรู้มาอาจจะทำให้เราเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น การไม่รับรุ้ หรือไม่สนใจก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลย เพื่อความสบายใจของเราตัดสิ่งที่อยากรู้อยากเห็นออกไปบ้างคงจะดีไม่น้อย